วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทำอาหารกินเอง -- หมูมะนาว

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๗ นะคะ ไม่ได้อัพเดทบล็อกนานเลย  ปีนี้เป็นปีของการเรียนและการกินสำหรับเราเลยค่ะ เพราะนอกจากจะต้องอ่านหนังสือเยอะ ยังกินและนอนเยอะอีกด้วย พอดีว่าที่หอพักตอนนี้มีห้องครัวแยกสามารถใช้ได้สะดวก เราก็เลยเห่อทำอาหารทุกอาทิตย์ เพราะการทำอาหารอร่อยเป็นสิ่งนึงที่อยากทำได้เลยล่ะค่ะ(นอกจากความชอบกินอ่ะนะ)

สำหรับเมนูวันนี้ที่จะนำเสนอคือ..... หมูมะนาว ค่ะ 
อาหารรสเผ็ดเปรี้ยวจี๊ด หมูนุ่มๆกับความกรุบกรอบของก้านคะน้าหวานๆ แซ่บถึงใจจริงๆ
ส่วนประกอบ (สำหรับ 1 จานในรูปเลยค่ะ)
1.  เนื้อหมู  (เราใช้หมูสันนอก เพราะจะมีมันน้อยและเนื้อนุ่ม)   2  ขีด
2.  คะน้า (เลือกเฉพาะก้านตรงลำต้น ก้านใหญ่ๆจะดี)            4 ต้น
3.  พริกขี้หนูสีเขียวแดง                                                 10 เม็ด
4.  กระเทียม                                                               5   กลีบใหญ่
5.  เกลือป่น                                                                1/3  ช้อนโต๊ะ
6.  มะนาว                                                                  2  ผล
7.  น้ำตาลปีบ                                                             1 ช้อนโต๊ะ
8.  น้ำต้มสุก                                                               3 1/2  ช้อนโต๊ะ

อาหารไทยเวลาทำต้องหมั่นชิมแล้วปรุงค่ะ และขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วยค่ะ เปรี้ยวเค็มหวานชอบไม่เหมือนกัน ดังนั้นอัตราส่วนที่ให้ เป็นแค่สัดส่วนคร่าวๆ ตอนทำค่อยเติมรสและปรับตามความชอบนะคะ ถ้าทำจำนวนมากก็เพิ่มสูตรตามสัดส่วนได้เลยค่ะ

วิธีทำ
1. คะน้าล้างแล้วปอกเปลือกแข็งๆตรงโคนต้นออกบางๆ หั่นเฉียง นำไปลวกในน้ำเดือดจัด กะเอาว่าพอใส่คะน้าลงไปจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้นได้ทันทีเลยค่ะ  นำคะน้าที่ลวกแล้วแช่เย็นไว้(ยิ่งเย็นๆยิ่งกินอร่อย)
2. เนื้อหมูที่หั่นแล้ว ลวกในน้ำเดือดพอสุก อย่าลวกนานจนแข็งนะคะ
3. ตำพริกกับกระเทียมให้ละเอียด (เราใช้เครื่องปั่น)  นำมาปรุงรสกับ น้ำตาลปีป เกลือป่น มะนาว และเติมน้ำต้มสุกลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสก่อน รสชาติจะออกเปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานนิดๆ (ถ้าใครชอบเผ็ดร้อนกว่านี้เพิ่มพริกกระเทียมได้ค่ะ)

วิธีเสิร์ฟ  จัดคะน้ารองจานแล้ววางเนื้อหมูปนกับคะน้านิดหน่อย ราดด้วยน้ำยำ

ขอให้แซ่บอร่อยถึงใจทุกคนนะคะ (เราไม่มีรูปถ่ายขั้นตอนการทำเพราะมันถ่ายยาก แต่หวังว่าจะเข้าใจวิธีทำนะคะ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น