วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Spirited Away (千と千尋の神隠し)


ที่มาภาพ http://en.wikipedia.org/wiki/Spirited_Away
Spirited Away เรื่องนี้ถ้าแปลตามตัวก็คือเรื่องจิตวิญญาณที่หายไป แต่ว่าชื่อในภาษาญี่ปุ่น 千と千尋の神隠し Sen to Chihiro no kamikasushi แปลว่าการหายไปของเซ็นและจิฮิโระ ซึ่งก็ตรงตามเนื้อเรื่องเลยนะคะ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ เด็กหญิงชื่อ จิฮิโระ ที่พลัดหลงเข้ามาในมิติของโลกวิญญาณ และด้วยความที่เธอต้องการช่วยเหลือพ่อกับแม่ ที่ถูกสาปเป็นหมูเพราะกินอาหารของโลกวิญญาณเข้าไป ด้วยความช่วยเหลือของ ฮากุ ผู้ช่วยของแม่มดที่ปกครองเมืองนั้น เขาแนะนำให้จิฮิโระไปขอทำงานที่นั่น แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำงานกับแม่มด จะถูกลบชื่อเก่าและเปลียนชื่อใหม่ ทำให้จำชื่อเก่าไม่ได้ ซึ่งถ้าต้องการจะเลิกสัญญาทำงาน มีทางเดียวก็คือจะต้องจำชื่อของตนเองให้ได้ ซึ่งจิฮิโระ ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เซ็น ดูตัวอย่างได้จากวีดีโอด้านล่างนะคะ (เราชอบเสียงพากย์ของญี่ปุ่นมากกว่าภาษาอังกฤษนะ)


ที่จริงแล้วเรื่องนี้ได้กวาดรางวัลมามากมายเลยค่ะ ได้รางวัลออสการ์สาขา Animation ด้วย มีคนหลายคนที่ตีความสัญลักษณ์และแนวคิดต่างๆจากการ์ตูนเรื่องนี้ อันที่จริงการ์ตูนของค่าย Studio Ghibli นี้เป็นการ์ตูนประเภทที่ถ้าดูผ่านๆไม่คิดอะไรก็ดูสนุก เหมาะกับเด็กๆ แต่ถ้าผู้ใหญ่ดูและพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่ผู้กำกับต้องการสื่อ ก็จะเห็นว่ามีสิ่งที่แฝงอยู่ในนั้นไม่น้อยเลยค่ะ

สำหรับเราเองที่ชอบก็เพราะว่า จินตนาการค่ะ ความแปลกใหม่ของตัวละคร เนื้อเรื่อง ฉาก และโลกในจินตนาการของการ์ตูนเรื่องนี้ นับได้ว่าแตกต่างจากที่เราเคยพบเห็นกันมาทั้งหมดเลยค่ะ ภูติ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าตาน่ากลัวเสมอไป น่ารักๆ แบบตัวไรฝุ่นก็ได้ (เราชอบตัวนี้มากค่ะ) เป็นการ์ตูนที่ให้จินตนาการในแบบวัฒนธรรมชาวเอเชีย ซึ่งมันสวยงามมากในสายตาของเรา แง่คิดที่แฝงอยู่มากมายในเรื่องก็ใส่มาได้ดี ไม่มากไม่น้อย และไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป เหมาะกับการนำไปสอนเด็กๆจริงๆค่ะ เพลงประกอบก็เพราะมาก แต่งโดย Joe Hisaishi (เป็นเจ้าประจำของเพลงเพราะๆในการ์ตูนหลายๆเรื่องของ Ghibli)

เพลง One Summer's Day เป็น main theme

เนื้อหาต่อจากนี้ มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องนะคะ เราเขียนขึ้นเพื่อแชร์ความรู้สึกกับคนที่ดูมาแล้ว แต่ถ้าใครคิดว่ารู้ก่อนไม่เสียอรรถรสในการชม ก็อ่านต่อได้เลยค่ะ

ความประทับใจกับแง่คิดที่เราได้รับ
บอกก่อนเลยเราเองก็ไม่มีความรู้เรื่องวัฒนธรรมญี่ปุ่น หรือความเชื่อใดๆนะคะ เราเข้าใจในแบบของตัวเอง อย่างมุมมองของคนดูทั่วๆไป
1. เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของ จิฮิโระ เด็กสาวอายุ 10 ขวบ ที่ถ้าดูจากเรื่องแล้วจะพบว่า เธอเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงมาแบบสังคมสมัยใหม่ ค่อนข้างถูกตามใจ และไม่มีความกล้า สังเกตุได้จากตอนต้นเรื่องที่เธอเดินทางผ่านอุโมงค์ และคำพูดของแม่มดยูบาบ้าที่พูดกับเธอ ตอนที่ขอทำงานด้วย
เมื่อจิฮิโระ ต้องเอาตัวรอดในโลกของวิญญาณให้ได้ และหาทางช่วยเหลือ พ่อแม่ และฮากุตอนบาดเจ็บ เธอกลับดึงความกล้าทั้งหมดมาใช้ และพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ จะเห็นว่าเธอกลายเป็นเด็กที่เข้มแข็ง และพึ่งพาได้ในท้ายที่สุดค่ะ (ส่วนหนึ่งเธอเป็นเด็กที่มีจิตใจดีอยู่แล้วด้วย)

2. ความมีน้ำใจของคนในโลกวิญญาณ จะเห็นได้จากตอนแรก คุณลุงฮามาจิ (แมงมุมต้มน้ำ) ปฎิเสธไม่ช่วยเหลือจิฮิโระ แต่สุดท้ายก็ช่วย ทั้ง ริน พี่เลี้ยงที่ดูแล จนกระทั่งสุดท้าย จิฮิโระก็เอาชนะใจคนทั้งโลกวิญญาณในเมืองนั้น ให้มาร่วมลุ้นและเอาใจช่วยเธอได้
ฉากสำคัญคือ ความสามัคคี ตอนที่ทุกคนพยายามช่วยกันดึงเอาหนามออกจากตัวของเทพแห่งสายน้ำ ทั้งๆที่ตอนแรกไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เพราะกลิ่นเหม็นสกปรกมากๆ ถึงกับไล่ให้ จิฮิโระไปทำหน้าที่อาบน้ำอยู่คนเดียว

3. ความแตกต่างของการดำเนินชีวิต ระหว่างแม่มดฝาแฝด ยูบาบ้า ที่โลภมาก หาเงินไม่สนใจอะไรนอกจากธุรกิจ เลี้ยงโบ หลานตัวอ้วนใหญ่แบบทะนุถนอมถึงกับ ไม่ให้ออกไปไหน เพราะกลัวเชื้อโรคจะติดหลาน ยูบาบ้าจะเข้มงวดและงก กับคนอื่นๆ แต่จะยอมให้หลาน คือ โบ คนเดียว
จะเห็นว่าความโลภของเธอเข้าเส้นขนาดที่ โบ หายไปเธอยังไม่รู้ตัว พอ ฮากุ บอกว่าสิ่งสำคัญหายไปยังไม่รู้อีก เธอกลับมองที่ ทองคำ เป็นอันดับแรก แสดงให้เห็นถึงจิตใจของคนที่เห็น เงินทองสำคัญกว่าคนในครอบครัว
ในขณะที่ เซนิบ้า แม่มดฝาแฝด  ที่ดูเหมือนดุ น่ากลัว กลับมีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง ในบ้านหลังเล็กๆ และเป็นคนที่ใจดี เธอยังให้ เจ้าไร้หน้า ทำงานอยู่กับเธอ เพราะว่ามันไม่มีเพื่อน  และตอนแรกที่เราคิดว่าแม่มดเซนิบ้า ทำร้ายฮากุ กลับกลายเป็นแม่มดยูบาบ้าที่ทำร้ายเขาด้วยการใส่ตัวคำสาปไว้ในท้องของฮากุ เพื่อควบคุมเขาด้วยอำนาจ

4. โบ เด็กที่เอาแต่ใจตัวเองในตอนแรก ยืนไม่ได้ เพราะไม่เคยออกไปไหนนอกห้อง เนื่องจากกลัวเชื้อโรค หลังจากถูกแม่มดเซนิบ้าสาปให้เป็นหนู ออกเดินทางไปกับจิฮิโระ เขาก็หันมาชอบในความมีน้ำใจของเธอ ไม่ใจแคบเหมือนป้ายูบาบ้า และหัดยืนได้สำเร็จ

5. เจ้าไร้หน้า เป็นตัวแทนของความเหงา เขารู้สึกชอบจิฮิโระ เพราะเธอทำดีด้วย เขาจึงพยายามเป็นเพื่อนกับเธอ ด้วยการหาสิ่งของที่คิดว่าเธออยากได้เอามาให้ จากที่ตอนแรกเขาเอาป้ายน้ำสมุนไพรให้ ต่อมาก็ให้ทองคำ เพราะเห็นว่าคนอื่นๆอยากได้ มีแต่คนโลภมาก พยายามเอาใจเขา เพื่อขอทองคำ แต่จิฮิโระกลับปฎิเสธ เขาจึงกลืนคนอื่นเข้าไปในท้องด้วยความโกรธ สุดท้ายความมีน้ำใจและความช่วยเหลือของจิฮิโระ ทำให้เขารู้สึกตัว และอยากเป็นเพื่อนกับเธออีก
จะเห็นว่า คนเรามักจะสร้างความสัมพันธ์กัน ด้วยการให้สิ่งที่เราคิดว่าเขาอยากได้ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ทุกอย่าง การที่เราไปยัดเยียดให้เขา และโกรธเมื่อเขาไม่ตอบรับ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เราควรจะต้องฟังความคิดของคนอื่นก่อนหรือเปล่า
อย่างจิฮิโระ ไม่ได้ต้องการทองคำ เพราะเธอไม่โลภ และเธอพูดว่า เจ้าไร้หน้าให้ในสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้หรอก นั่นก็คือ การช่วยเหลือพ่อแม่ของเธอนั่นเอง

6. น้ำใจและความดีของจิฮิโระ จะเห็นชัดมากในหลายตอน แต่ที่สำคัญคือ ขนมดังโงะ ที่เทพเจ้าแห่งสายน้ำให้เธอไว้ มันเป็นเหมือนยารักษา ซึ่งอาจจะรักษาพ่อแม่ของเธอให้หายจากการถูกสาปได้ เธอจึงเก็บไว้ แต่พอฮากุบาดเจ็บเธอก็แบ่งไปรักษาเขาครึ่งนึง พอเจ้าไร้หน้าอาละวาด เธอก็ยกที่เหลือทั้งหมดรักษามัน ซึ่งเธอเองใช้ของสำคัญที่อาจจะช่วยพ่อแม่ตัวเองได้ไปช่วยคนอื่น ถ้าไม่เสียสละจริงๆทำไม่ได้หรอก

7. เรื่องของการไม่ลืมตัวตน ผ่านจากการที่คนที่มาทำงานกับยูบาบ้า จะต้องถูกลบชื่อเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ และ ฮากุ ก็ไปไหนจากยูบาบ้าไม่ได้เพราะเขาจำชื่อตัวเองไม่ได้ แต่เขาสั่งให้จิฮิโระจำชื่อตัวเองไว้  ซึ่งฮากุเอง เดิมทีเป็นเทพแห่งแม่น้ำโคฮากุ แล้วเขาต้องการเรียนเวทมนต์กับ ยูบาบ้า จึงมาขอทำงานกับเธอ พออยู่ๆในโลกนี้ไป เขาก็จำชื่อตัวเองไม่ได้ กลายเป็นเพียงลูกจ้างในกำมือของยูบาบ้า ที่ต้องทำเรื่องไม่ดีให้กับเธอ มันจึงเป็นข้อคิดที่ว่า ถ้าคนเราลืมตัวตนของตัวเองไป ก็จะถูกกลืนไปในสังคมนั้นๆได้โดยง่าย

สรุปสุดท้าย แก่นของเรื่องคือ ความมีน้ำใจและความดี ความกล้าหาญและมุ่งมั่นพยายามที่เอาชนะต่ออุปสรรคของจิฮิโระ ทำให้เธอเอาชนะปัญหาต่างๆได้ ที่สำคัญคือเอาชนะใจคนรอบข้างให้หันมาทำดีกับเธอด้วยค่ะ

หลังจากดูเรื่องนี้จบรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ เราคิดว่า เราหลงรักคาแรคเตอร์ของฮากุนะ เงียบๆ เท่ห์ๆ แต่มีน้ำใจ เสียดายตอนจบ ต้องกลับมางงว่า แล้วฮากุ จะไปเจอกับจิฮิโระ อีกได้อย่างไร ^^

ปล. เราไม่กล้า capture ภาพจากวีดีโอมาใส่ และหาภาพที่ปล่อยจาก Studio เองไม่ได้ เลยไม่ได้แปะภาพประกอบนะคะ ทั้งที่จริงแล้วภาพในเรื่องสวยมาก แต่คิดว่าผู้อ่านคงค้นหาตัวอย่างภาพได้ไม่ยากค่ะ

2 ความคิดเห็น:

  1. สปอยเยอะเลยนะครับอาจารย์

    ตอบลบ
  2. ก็เห็นว่าหนังมันเก่าแล้ว แต่จริงๆก็ไม่เยอะนะ ดูอีกกี่ทีก็ประทับใจเท่าเดิม อิอิ

    ตอบลบ