วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หัดเล่น Aikido

พูดถึงศิลปะการป้องกันตัวก็มีหลากหลายรูปแบบ ยิ่งถ้าใครชอบดูหนังที่เกี่ยวกับการต่อสู้ก็จะรู้สึกคุ้นเคยกับพวก คาราเต้ ยูโด เทควันโด้ มวยไทย ฯลฯ กันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ

เราเองก็เคยคิดไว้ตั้งแต่สมัยยังเป็นสาวแรกรุ่น (นานมากเลยนะนั่น) ว่าอยากจะฝึกหัดพวกศิลปะป้องกันตัว เพราะว่านอกจากจะได้ความสนุกแล้ว ยังเป็นการฝึกความแข็งแรงให้กับร่างกาย และช่วยให้เอาตัวรอดจากเหล่าผู้ร้ายได้อย่างในหนัง

ยิ่งระยะหลังๆมานี้ ติดการ์ตูนเรื่องโคนัน แล้วรันจังก็เก่ง คาราเต้มากเลย ดูกี่ทีก็รู้สึกว่าเท่ห์จัง เป็นผู้หญิงเก่งที่เอาตัวรอดได้ และก็มีความอ่อนหวานในตัวเอง ทำให้เราพร่ำเพ้ออยากจะฝึกคาราเต้อยู่หลายครั้งหลายครา

และแล้ว... ความฝันของเราก็เริ่มมีเค้ามาลางๆ เมื่อมีคนแนะนำว่ามีชมรมไอคิโด้ (Aikido) เปิดสอนนะ ซึ่่งก็สะดวกมากที่จะไปฝึก ฝึกกันตอนเย็นๆ อาทิตย์ละสามวันเอง

ข่าวแว่วเข้าหูอย่างนี้แล้วมีหรือที่เราจะรีรอ ยิ่งพี่คนแนะนำบอกว่า เอาอย่างนี้มั้ยเสาร์นี้ (เมื่อวาน) จะมีรุ่นพี่สายดำ มาอบรมให้กำลังใจน้องๆมือใหม่ ลองไปหัดเล่นได้นะ ชอบไม่ชอบยังไงก็จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

มันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ที่เราจะรีบจรลีไปห้องฝึกทันที มีคนมากันไม่กี่คนแต่ละคนก็เพิ่งเริ่มหัด และมี อาจารย์(รุ่นพี่) สายดำสองท่าน กับสายน้ำตาลอีกสอง บวกกับรุ่นพี่ที่เล่นมาหลายปีสายขาวอีกหนึ่ง

โอ้ว...ตุ้บตั้บ ๆ เสียงกระแทกเบาะดังที เราสะดุ้งไปหลายเฮือก มองดูไปมาก็คล้ายกับว่าดูมวยปล้ำที่เรามักจะบอกว่า มันหลอกๆๆ แกล้งเจ็บกันไปยังงั้นเอง ทำเสียงดังกันไว้ก่อน

พอได้ฝึกจริง เราก็เข้าใจแล้วว่า อ๋อ...ไอ้เสียงเบาะดังๆ ที่เค้าทำน่ะ เพื่อจะบอกคู่ต่อสู้ว่าเจ็บนะ หยุดได้แล้ว และไอ้ที่ใครๆบอกว่า มันไม่เจ็บหรอกๆ เราขอยืนยัน ด้วยรอยจ้ำตามแขน และอาการปวดเมื่อย ระบมไปทั่วทั้งตัว จนทำให้แม้กระทั่งตอนนี้เรายังต้องนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง เดินลงบันไดทีก็ร้องโอยๆ เพราะมันระบมมาก ขอบอกว่าเจ็บจริงๆค่ะ

ไอ้ที่ดูเหมือนไม่น่าจะเจ็บ ไม่เห็นต่อยตีอะไรกันเลย แต่ก็เพราะการบิดแขน การลาก ปัดออก ท่าเหล่านี้แหละค่ะ ที่ทำให้คู่ต่อสู้เจ็บได้ ซึ่งจริงๆแล้ว เห็นรุ่นพี่สายดำก็บอกว่า เราสามารถตี ฟัน คู่ต่อสู้ก็ได้ เมื่อเขาเปิดช่องว่างไว้ หรือหลังจากที่เรากดเขาลงไปแล้ว ซึ่งก็แล้วแต่เราจะเลือกว่าจะทำหรือไม่

จากการฝึกหนักครั้งแรกเมื่อวาน เราก็คิดว่า ไอคิโด้เป็นการฝึกศิลปะอย่างหนึ่ง ที่เสริมความแข็งแรงของร่างกายเราได้ และสนุก ไม่ต้องใช้แรงเตะต่อยกันมาก แต่ก็ช่วยให้เราหลบหลีกคู่ต่อสู้ได้ดี

ส่วนเรื่องที่ว่ามันจะช่วยป้องกันเราจากผู้ร้ายได้มั้ยนั้น เราคิดว่า ความเคยชินของท่าทางจากการฝึก จะช่วยให้เราเจ็บน้อยลง และหนีจากภัยอันตรายได้ง่ายขึ้น รวมถึงอาจจะใช้สยบคนร้ายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังคงอยู่บนพื้นฐานของคำว่า จงมีสติ ค่ะ เพราะถ้าเรามีสติ เมื่อเกิดอันตรายใดๆก็ตาม เราก็ย่อมจะใช้ปัญญาหาทางเอาตัวรอดได้เสมอ

แต่สำหรับตอนนี้ เราคงต้องขอไปนวดขาตัวเองอย่างมีสติก่อนนะคะ ถ้าไม่ยอมแพ้ซะก่อน คงได้เห็นเราเป็น Aikido Kid เร็วๆนี้ค่ะ อิๆๆ

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การ์ตูนของ Studio Ghibli

เนื่องจากเราได้ดูการ์ตูนของค่าย Studio Ghibli อันมีความชอบในสไตล์ของการ์ตูนค่ายนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเพลงประกอบเพราะมาก ภาพสวยเก็บรายละเอียดองค์ประกอบภาพไว้ครบ เนื้อหาของการ์ตูนหลายๆเรื่อง จะไม่ซับซ้อนสนุกสนานเหมาะกับเด็กๆ แต่บางเรื่องกลับมีเนื้อหาลึกซึ้งตีความหมายกันได้ไม่รู้จักกี่แง่มุม

จุดนึงที่อยากให้สังเกตุคือ การ์ตูนของ Ghibli มักจะให้ตัวเอกของเรื่องเป็นเด็กผู้หญิง เพราะฉะนั้นนิสัยของนางเอกจะไม่ใช่อ้อนแอ้นอรชร แต่จะมีความเข้มแข็งแต่ก็ยังคงความอ่อนโยนน่ารักของเด็กผู้หญิงเอาไว้ ส่วนเนื้อหาก็จะอยู่ในแนวของ การเปลี่ยนพัฒนาการทางจิตใจของตัวเอก ปัญหาเกี่ยวกับการทำลายธรรมชาติ สงครามหรือการขัดแย้ง และมักจะแทรกข้อคิดอื่นไว้อยู่เสมอ

ค่ายนี้ทำการ์ตูนออกมาหลายเรื่องมาก (ก่อนจะมาก่อตั้ง Studio แต่กำกับโดย Hayao Miyazaki ก็มี) ดังนั้นบล็อกนี้เราเลยอยากจะทำเป็นสรุปสั้นๆของการ์ตูนค่าย Studio Ghibli เท่าที่เราเคยดูแล้ว เรียงลำดับตามความชอบของเรานะคะ (บางเรื่องก็ชอบเท่าๆกันเลย ตัดสินใจยากมาก)

ที่มาของรูปภาพทั้งหมด http://en.wikipedia.org/wiki

Spirited Away (2001) จิฮิโระ เด็กหญิงอายุประมาณ 10 ขวบ ได้พลัดหลงเข้าไปในโลกของวิญญาณและเทพ พ่อกับแม่ของเธอกินอาหารของโลกนั้นจึงกลายเป็นหมู ด้วยความช่วยเหลือของฮากุ (ผู้ช่วยของแม่มดที่ปกครองเมืองนั้น) ที่แนะนำให้เธอขอทำงานที่นั่นเพื่อหาทางช่วยเหลือพ่อแม่และหาทางออกจากโลกวิญญาณต่อไป ในการทำงานนั้น ต้องมีการเซ็นต์สัญญากับแม่มด และจะถูกลบชื่อเดิมทิ้งให้ใช้ชื่อใหม่ ซึ่งเงื่อนไขการยกเลิกสัญญาจ้างก็คือการที่ต้องจำชื่อตัวเองให้ได้ กว่าที่จิฮิโระจะหาทางช่วยพ่อแม่ของเธอได้ ต้องพบกับปัญหาหลายๆอย่างที่ต้องแก้ไข
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้โดดเด่นที่จินตนาการ ในแบบวัฒนธรรมเอเชีย ตัวละครทั้งหมดมีรูปร่างหน้าตาแปลกไปจากการ์ตูนทั่วๆไป อีกทั้งเนื้อหาก็แฝงไว้ทั้งความสนุกที่ได้จากการผจญภัยของจิฮิโระ ข้อคิดดีๆที่สื่อผ่านตัวจิฮิโระเอง เนื้อเรื่องกระชับไม่เยิ่นเย้อ มีเรื่องให้ติดตามกันได้ตลอดว่าจะลงเอยอย่างไร เป็นแนวผจญภัย ร่วมกับพัฒนาการด้านจิตใจของตัวละครเอก ที่ทำให้ประทับใจทุกครั้งที่ดูค่ะ เราคิดว่าเรื่องนี้เหมาะกับผู้ชมทุกๆวัยนะคะ ถ้าไม่คิดอะไรก็ดูสนุก ถ้ามีผู้ใหญ่คอยอธิบายเด็กๆจะได้แง่คิดด้วยค่ะ อ่านเพิ่มเติม

Laputa: Castle in the Sky (1986) การผจญภัยของเด็กชาย ปาซู ซึ่งทำงานอยู่ที่เหมืองแร่เริ่มขึ้น หลังจากที่เขาได้พบกับเด็กผู้หญิง ชีต้า ที่ลอยลงมาจากท้องฟ้า ซึ่งเธอโดนตามล่าโดยกลุ่มคนที่ต้องการศิลาลอยฟ้าที่เป็นสมบัติของตระกูล ปาซูมีความหลังกับเมืองลอยฟ้า ที่ชื่อ Laputa ซึ่งคุณพ่อของเขาถ่ายรูปไว้และได้บอกเล่าให้คนอื่นฟัง แต่ไม่มีใครเชื่อ เขาจึงอยากไปเมืองนี้สักครั้ง หลังจากได้ให้ความช่วยเหลือชีต้า เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปที่เมืองอันน่าอัศจรรย์แห่งนี้พร้อมกับเธอ ผู้ซึ่งมีปริศนากับเมืองนี้มากมาย
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้นำเสนอความอัศจรรย์ของเมือง รวมทั้งฉากการไล่ล่าได้สวยงามและน่าสนุกมาก เป็นการ์ตูนผจญภัยที่ลุ้นตัวโก่งที่สุดเท่าที่เราดูมาในชุดของ Ghibli เนื้อเรื่องก็สนุกสนานต้องคอยเอาใจช่วย ปาซูกับชีต้ากันทั้งเรื่อง ปริศนาเบื้องลึกเบื้องหลังของเนื้อเรื่องก็มีมาก บุคลิกของตัวละครก็น่าสนใจ แฝงแง่คิดไว้ไม่่น้อย เป็นแนวผจญภัย เน้นเรื่องการดูแลธรรมชาติ ความโลภของมนุษย์ ดูซ้ำๆได้เลยค่ะ คิดว่าเรื่องนี้เหมาะกับทุกวัยนะคะ อาจจะดูเว่อร์ตอนไล่ล่ากัน ต่อสู้กัน แต่ก็ไม่มีฉากโหดร้าย เนื้อหาก็เข้าใจง่าย สอดแทรกแง่คิดออกมาให้เห็นชัดเจน สาวๆหลายคนอาจจะชอบ ปาซู เพราะการกระทำของเขาเท่ห์จริงๆ

Whisper of the Heart (1995) เป็นเรื่องความรักในวัยเด็กมัธยมต้นน่ารักๆ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชิซุกุ วัย 14 ปี รู้สึกสนใจชื่อของเด็กชายคนหนึ่ง อามาซาวะ เซย์จิ ที่ยืมหนังสือก่อนหน้าเธอเกือบทุกเล่ม ทำให้เธอจินตนาการถึงเขาและพยายามค้นหาว่าเขาเป็นคนอย่างไร นิสัยแบบไหน สุดท้ายทั้งสองคนก็ได้รู้จักกันผ่านร้านขายของเก่าของคุณปู่ของเซย์จิ เนื้อเรื่องไม่ได้เน้นที่ความรักของเด็กทั้งสองคนมากนัก แต่เน้นไปที่พัฒนาการทางด้านจิตใจของ ชิซุกุ มากที่สุด โดยมีเรื่องราวในอดีตของคุณปู่กับเซย์จิเป็นแรงผลักดัน ทำให้เธอพยายามค้นหาตัวเอง พร้อมๆกับที่เซย์จิเองก็พยายามจะทำสิ่งที่ตัวเองรักให้สำเร็จ
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้ไม่มีความแฟนซีหรือจินตนาการเหนือจริง แต่เพราะมันใกล้เคียงความจริงนี่แหละ ถึงได้ทำให้เราชอบเรื่องนี้มาก จุดเด่นคือการค้นหาตัวเองของ ชิซุกุ เรื่องนี้นำเสนอได้เด่นชัดและถ่ายทอดอารมณ์ของเด็กคนนึงได้น่าประทับใจมาก อีกทั้งความรักของเด็กทั้งสองคนก็นำเสนอได้น่ารัก มีการให้กำลังใจกันและกัน การนำเสนอบทบาทของคนในครอบครัวที่มีอิทธิพลต่อเด็กก็ทำได้ดี เป็นการ์ตูนที่ดูแล้วประทับใจในเนื้อหาและอารมณ์ของตัวละครเอก ยิ่งถ้าใครอินจนถึงขั้นนึกถึงตัวเองตอนเด็กเท่า ชิซุกุ หรือเคยเจอเหตุการณ์แบบเธอมาก่อน ก็น่าจะทำให้ซาบซึ้งกับเนื้อหาได้ไม่ยาก เราคิดว่าเรื่องนี้เหมาะกับทุกวัยนะคะ โดยเฉพาะคนที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่ สาวๆหลายคนคงหลงรักบุคลิกของ เซย์จิแน่นอนเลยค่ะ
Princess Mononoke (1997) เป็นเรื่องของเจ้าชายหนุ่มของชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่ง อาชิทากะ ที่โดนคำสาปของปีศาจหมูป่า ทำให้เขาต้องเดินทางไปหาทางแก้คำสาป ซึ่งทำให้เขาบังเอิญมาเจอกับคนสองกลุ่มที่เกลียดชังกัน และทำให้เกิดสงครามกันขึ้น โดยที่กลุ่มนึงคือมนุษย์ที่ต้องการจะบุกรุกป่าเพื่อทำเหมืองเหล็ก ส่วนอีกกลุ่มคือสัตว์ป่าซึ่งมีเจ้าหญิงโมโนโนเกะ หญิงสาวที่ถูกเลี้ยงโดยหมาป่าเป็นผู้นำการต่อสู้ ซึ่งนอกจากสัตว์ป่าแล้วก็ยังมีเทพผู้ปกครองป่าที่กลายเป็นเป้าหมายสำคัญในการล่าของมนุษย์ อาชิทากะจึงพยายามที่จะทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติท่ามกลางความขัดแย้งที่ดูท่าจะหาทางออกไม่ได้ ในขณะที่แต่ละฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตัวเองและมองถึงความจำเป็นของตนเองเป็นหลัก
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้เด่นที่เนื้อหาเรื่องของความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ คนกลางอย่างอาชิทากะก็พยายามมองหาความสันติ เป็นการ์ตูนของ Ghibli ที่เด่นมากในเรื่องของสีเทา คือไม่สามารถระบุตัวคนดี ผู้ร้ายได้ชัดเจน เพราะต่างฝ่ายต่างมีพื้นฐานที่เป็นเหตุผลของการกระทำ ทั้งแนวคิดต่างๆอัดแน่นเพียบในเนื้อเรื่อง แต่ก็ไม่ได้หดหู่ กลับมีเนื้อเรื่องสนุกชวนติดตาม พร้อมทั้งแทรกความรักและการช่วยเหลือกันของตัวเอกทั้งคู่  เป็นการ์ตูนที่ชี้ให้เห็นถึงผลเสียของสงครามและการทำลายธรรมชาติได้ชัดเจนมาก เราคิดว่าเหมาะกับทุกวัยนะคะ แต่จะมีบางฉากที่รุนแรงไปนิดสำหรับเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ควรจะให้คำแนะนำเด็กเวลาชม จะช่วยให้เขาเข้าใจเรื่องราวได้มากเลยค่ะ และแน่นอน เจ้าชายอาชิทากะก็แมนสุดๆไปเลยเรื่องนี้

Howls Moving Castle (2004) พ่อมดหนุ่มรูปงามชื่อว่า ฮาวล์ มีบ้าน(เขาเรียกว่าปราสาท)แปลกประหลาดสามารถโยกย้ายเคลื่อนที่ได้ กับหญิงสาวอายุ 18 ปี โซฟี่ ที่บังเอิญต้องคำสาปให้กลายร่างเป็นยายแก่อายุ 90 ปี เธอไม่สามารถบอกใครได้ว่าโดนคำสาปอะไรมา และต้องหาทางแก้ไขด้วยตนเอง จึงเป็นเหตุให้เธอไปทำงานเป็นคนทำความสะอาดในปราสาทของพ่อมด ฮาวล์ ซึ่งมีนิสัยสำอางค์ เจ้าชู้ รักอิสระแต่มีจิตใจดี แต่ตัวเขาเองก็โดนคำสาปที่มีพันธะสัญญากับปีศาจไฟ ชื่อ Calcifier ที่ยังหาทางแก้พันธะไม่ได้  เหตุการณ์บ้านเมืองตอนนั้นเกิดความไม่สงบมีสงครามระหว่างสองเมือง เนื่องจากเจ้าชายของเมืองหนึ่งหายตัวไป ฮาวล์จึงถูกเชิญจากผู้ปกครองเมืองให้ไปร่วมรบ แต่เขาไม่ต้องการเข้าร่วม ทั้งโซฟี่และฮาวล์ต้องจัดการกับปัญหาของตนเอง  พร้อมกับแก้ปัญหาอันยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเขาทั้งสองคน
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้นำเสนอภาพบ้านเมืองและความอัศจรรย์ของปราสาทและเวทมนท์ได้สวยมาก เนื้อเรื่องก็สนุกสนาน มีเรื่องราวซับซ้อนให้ลุ้นชวนติดตาม  บุคลิกของตัวละครก็น่าสนใจ เนื้อเรื่องยังแฝงแง่คิดไว้ด้วย เป็นแนวผจญภัย และมีการพัฒนาการของตัวละครในเรื่อง ดูกี่ทีก็สนุกค่ะ คิดว่าเรื่องนี้สาวๆจะชอบกันเยอะ เพราะวาดฮาวล์ได้หล่อสวย และมีเรื่องความรักแทรกอย่างชัดเจน แต่ก็อัดเข้าไปด้วยฉากสงครามเยอะเหมือนกัน แต่ก็ยังถือว่าเหมาะกับทุกวัยนะคะ เพราะไม่มีความรุนแรง เนื้อหาก็เข้าใจไม่ยาก
From Up on Poppy Hill (2011) เป็นเรื่องความรักในวัยมัธยมปลาย ระหว่างเด็กสาว อูมิ ที่เธอมักจะชักธงสัญญาณที่หน้าบ้านทุกเช้า เพื่อส่งสัญญาณรอคอยถึงคุณพ่อของเธอที่เป็นกัปตันเรือเสบียงที่ถูกถล่มระหว่างสงครามเกาหลี ส่วน ชุน เด็กชายที่นั่งเรือข้ามฟากมาโรงเรียนทุกวัน เขาตอบรับสัญญาณธงของ อูมิ แต่เธอไม่เคยรู้ เรื่องราวความรักของเด็กทั้งสองคนเกิดขึ้นผ่านการร่วมมือร่วมใจในการแก้ปัญหาของนักเรียนในโรงเรียน ที่ไม่ต้องการให้ตึกชมรมถูกทุบทิ้ง ในขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องการจะรื้อถอนเพื่อสร้างตึกใหม่ทับ ตามการรณรงค์ทำญี่ปุ่นให้ดูดีต้อนรับโอลิมปิก 1964 ซึ่งเป็นการปฎิรูปเมืองหลังสงคราม
เหตุผลที่ชอบการ์ตูนเรื่องนี้พล็อตเรื่องความรักอาจจะน้ำเน่า(ในสายตาหลายๆคน) แต่ก็ไม่ได้น้ำเน่าจนน่าเบื่อหรือเดาทางออกได้ง่ายๆ กลับเป็นว่าดึงให้บุคลิกการตัดสินใจและพัฒนาการของตัวละครโดดเด่นขึ้นมากกว่า ภาพบ้านเมืองและตึกชมรมทำออกมาได้สวยงามมาก การร่วมมือร่วมใจของเพื่อนๆในโรงเรียนก็ถือเป็นอีกจุดเด่นนึงที่ทำได้น่ารัก  ที่สำคัญก็ยังแฝงแนวคิดอนุรักษ์นิยมเข้าไว้ ผ่านการแก้ปัญหายุบตึกชมรม สำหรับเราถือว่าเป็นการ์ตูนเนื้อเรื่องเรียบๆที่ทำให้ประทับใจได้ ถ้าใครชอบแนว Whisper of the Heart น่าจะชอบเรื่องนี้แน่นอนเลยค่ะ เราคิดว่าเรื่องนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยนะคะ เด็กในวัยเรียนอาจจะตรึงใจเป็นพิเศษ
The Borrower Arrietty (2010)  เป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์จิ๋วสาวน้อย ชื่อ Arrietty เป็นกลุ่มคนจิ๋วที่ใกล้จะสูญพันธ์แล้ว เธอกับครอบครัวต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ใต้พื้นบ้านหลังหนึ่ง เพราะกลัวว่าจะถูกมนุษย์จับไปค่ะ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ใช้สอยอยู่ ก็จะได้มาจากการไปหยิบของมนุษย์มา แต่ว่า..เขาไม่เรียกว่าขโมยนะคะ ใช้คำว่ายืม แทนค่ะ ทีนี้วันนึง Arrietty ก็ถูกเด็กผู้ชายในบ้านซึ่งสุขภาพไม่แข็งแรงพบเห็นเธอเข้า ต่อมาเด็กทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกันค่ะ เรืองราวเริ่มไม่สงบเมื่อมีมนุษย์คนอื่นมาพบเธอเข้าอีก เธอจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้น่ารักตั้งแต่ตัวการ์ตูนจิ๋วแล้วค่ะ ส่วนมุมมองของการอยู่ร่วมกัน โดยไม่เบียดเบียนกันก็ทำได้ดี ความสัมพันธ์ของเด็กจิ๋วกับเด็กชายก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ เป็นการ์ตูนที่ดูได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อ  สำหรับไคลแม็กซ์ของเรื่องก็อาจจะไม่ได้หวือหวา ทำให้คนดูต้องตื่นเต้นจนแทบทนไม่ได้ หรือเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย แต่กลับเป็นจุดที่ทำให้เนื้อเรื่องจบได้อย่างสมบูรณ์และใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะค่ะ เราก็แอบน้ำตาซึมในตอนจบเหมือนกัน เราคิดว่าเรื่องนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยนะคะ

My Neighbor Totoro (1988) เด็กหญิงสองคน ซัทซึกิ ในวัยประถมต้น กับ เม วัยก่อนประถม ย้ายบ้านมาอยู่ในแถบชนบท มาอยู่ในบ้านเก่าๆกับคุณพ่อ เพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆคุณแม่ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแถบนั้น เนื้อเรื่องน่ารักมากขึ้น เมื่อ เม ได้พบกับเจ้าภูติผู้ดูแลผืนป่าตัวโต๊โต ที่หน้าตาน่ากลัว แต่ทำตัวน่ารัก และใจดี เธอเรียกมันว่า โทโทโร่ ในขณะที่คนในหมู่บ้านไม่เคยเห็นมัน โทโทโร่กลายเป็นเพื่อนเล่นและที่พึ่งของเม ซึ่งเนื้อเรื่องจะทำให้เราเห็นว่าเด็กๆก็มีปัญหาในแบบเด็กๆ แต่ว่าโทโทโร่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้เด็กๆได้อย่างไร
เหตุผลที่ชอบ  การ์ตูนเรื่องนี้มีความน่ารักที่นำเสนอในแบบจินตนาการของเด็ก ตัวโทโทโร่กับรถบัสแมว ก็ทำออกมาได้น่ารัก นอกจากนี้ยังนำเสนอให้เราเห็นถึงมุมมองของเด็กและความสัมพันธ์ในครอบครัว เป็นการ์ตูนที่ดูได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับลุ้นตัวโก่ง แต่ก็ไม่น่าเบื่อ เพราะแค่ภาพกับความน่ารักของตัวละครก็ประทับใจแล้วค่ะ เราคิดว่าเรื่องนี้เหมาะกับเด็กๆมากที่สุด


Kiki's Delivery Service (1989) แม่มดน้อยฝึกหัด กิกิ อายุ 13 ปี ที่ต้องออกจากบ้านเดินทางไปฝึกเวทมนต์ด้วยตนเองเป็นเวลา 1 ปี เธอออกเดินทางไปยังเมืองที่อยู่ริมทะเล เนื่องจากเธอไม่มีความสามารถพิเศษที่โดดเด่น เธอจึงรับส่งของเพื่อหารายได้ เธอมองว่าผู้คนในเมืองยังไม่ให้การยอมรับเธอ กิกิจึงพยายามที่จะทำให้ผู้คนที่นั่นยอมรับในตัวเธอให้ได้ ซึ่งเนื้อเรื่องจะแสดงให้เห็นความตั้งใจและประสบการณ์ของกิกิ ผ่านชีวิตประจำวันของเธอ และเหตุการณ์อันพลิกผันที่จะทำให้ผู้คนในเมืองหันมายอมรับในตัวเธอ

เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้มีความน่ารักที่ตัวนิสัยของ กิกิ เอง เนื้อเรื่องอาจจะไม่หวือหวา ดูได้เรื่อยๆ แนวเดียวกับ Totoro แต่ว่ามีจุดเด่นของการนำเสนอการพัฒนาการของตัวละครเอกในเรื่อง เหมาะกับเด็กๆที่กำลังจะเปลี่ยนวัย หรือไม่มั่นใจในตัวเอง การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับทุกวัยนะคะ โดยเฉพาะเด็กๆ

Ponyo (2008) เรื่องของเด็กชายคนนึงที่บังเอิญเก็บเอาลูกปลาตัวน้อยมาเลี้ยงดูไว้ในโหล แต่ปรากฏว่าปลาตัวน้อยนี้ ไม่ใช่ปลาธรรมดา ในเมื่อเธอสามารถกลายร่างเป็นเด็กหญิงน่ารัก  ทั้งเรื่องเราก็จะเห็นความน่ารักของโปเนียว ลูกปลาน้อยที่ตามติด เด็กชายซัทซึเกะ แล้วก็เหตุการณ์มหัศจรรย์ต่างๆ เนื่องจากว่า โปเนียวเป็นลูกสาวเจ้าสมุทร ก็จะทำให้มีฤทธิ์ต่างๆทางทะเล เนื้อเรื่องจะแสดงให้เห็นความน่ารักของความผูกพันแบบเด็กๆ ความเข้มแข็งของคุณแม่ และความเหงาของซัทซึเกะที่คิดถึงพ่อ รวมถึงความโกลาหลวุ่นวายของครอบครัวเจ้าสมุทร

เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้มีความน่ารัก เพราะโปเนียวมันน่ารักตลกๆ เนื้อเรื่องก็ดูได้เรื่อยๆ ออกแนวผจญภัยเหนือจินตนาการตรงจุดที่เป็นอิทธิฤทธิ์ของครอบครัวเจ้าสมุทร โดยรวมแล้วน่ารัก เพลงเพราะค่ะ เป็นการ์ตูนที่ดูแล้วอมยิ้ม เหมาะกับทุกวัยนะคะ โดยเฉพาะเด็กๆ

The Wind Rises (2013) เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ จิโร่ เด็กชายที่มีความชอบเกี่ยวกับเครื่องบินเป็นอย่างมาก เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ดังนั้นเป็นยุคที่เครื่องบินถูกใช้ในสงครามเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด พอโตขึ้นจิโร่ก็เลือกเรียนทางด้านการออกแบบเครื่องบิน และหลังจากเรียนจบเขาก็ได้ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งที่เมือง นาโกย่า เขาทำการออกแบบและทดลองหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างเครื่องบินที่มีความเร็วตามที่ต้องการ อีกมุมนึงหนังก็เสริมเรื่องราวความรักของจิโร่ กับ นาโอโกะ ที่พรหมลิขิตพาให้เขาทั้งสองคนมาเจอกันอีกครั้งและได้มีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกันช่วงหนึ่ง

เหตุผลที่ชอบ เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ดำเนินไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดพีค และเล่าสลับกับความฝันที่อยากสร้างเครื่องบินได้ของจิโร่เป็นช่วงๆ จุดเด่นที่ทำให้ชอบคือความมุ่งมั่นและทุ่มเทของจิโร่ การพยายามวิ่งไล่ตามความฝันของเขา ถึงแม้จะล้มเหลวไม่รู้จักกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทำให้เราดูแล้วรู้สึกได้ว่าเขาได้พยายามมากจริงๆ แต่เพราะไม่มีจุดพีคที่ทำให้ตื่นเต้น และไม่มีจุดที่ทำให้เราตื้นตันจนน้ำตาไหล เราเลยจัดอันดับเรื่องนี้ไว้ท้ายๆ

Nausicaa of the Valley of the Wind (1984)  เป็นเรื่องของเจ้าหญิงในขุนเขาที่ชื่อ Nausicca ซึ่งมีนิสัยรักสัตว์มาตั้งแต่เด็ก มีป่าพิษแห่งหนึ่งที่เป็นที่อยู่อาศัยของแมลงตัวใหญ่มาก เป็นแหล่งปล่อยไอพิษออกมา ทำให้มนุษย์ต้องใส่หน้ากากป้องกันพิษ ทำให้มนุษย์หลายๆกลุ่มต้องการทำลายป่าแห่งนี้ ในขณะที่ Nausicca ไม่ต้องการทำลายเธอจึงเข้าไปหาสาเหตุที่ป่าแห่งนั้น โดยการสื่อสารกับสัตว์ สุดท้ายความขัดแย้งก็เกิดขึ้นจึงเกิดสงครามระหว่างมนุษย์กับสัตว์ในป่ามีพิษ Nausicca จึงต้องหาทางยับยั้งสงครามนั้น
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้นำเสนอเรื่องมนุษย์กับธรรมชาติไว้อย่างชัดเจน ความขัดแย้งทางความคิดและการทำลายธรรมชาติถูกยกเป็นประเด็นหลัก แต่ถึงจะมีเนื้อหาอัดแน่นแต่ก็แฝงความน่ารักของตัวละครเอกไว้ ภาพและจินตนาการของป่าพิษก็ทำได้สวยงามมาก  ติดตรงที่ตัวเราเองไม่ค่อยชอบสัตว์ดื้บๆสักเท่าไหร่ เลยทำให้เราดูเรื่องนี้แบบผ่านๆไปในหลายๆตอน เลยมาอยู่อันดับท้ายๆ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเป็นการ์ตูนที่ดีมากนะคะ เราคิดว่าเรื่องนี้ดูได้ทุกวัยแต่ว่าสำหรับเด็กๆอาจจะเข้าใจยากสักหน่อยค่ะ


The Cat Returns (2002) เรื่องน่ารักๆ ของแมวที่ต้องการตอบแทนคุณ หลังจากที่ ฮารุ เด็กสาวมัธยมปลาย ได้ช่วยเหลือเจ้าชายแห่งอาณาจักรแมวให้รอดชีวิตจากการถูกรถชน กษัตริย์แห่งเมืองแมว จึงตอบแทนเธอด้วยการพาเธอไปยังอาณาจักรและเตรียมให้แต่งงานกับเจ้าชาย ฮารุจึงไปขอความช่วยเหลือจากนักสืบแมว บารอน สุดเท่ห์พร้อมด้วยสหาย
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้มีความน่ารักของเหล่าแมวค่ะ ดูแล้วจะเป็นเรื่องที่พล็อตเรื่องไม่มีอะไรให้คิดมากที่สุดแล้วของ Ghibli แต่ก็ยังคงนำเสนอการพัฒนาการของตัวละครเอกนะคะ เป็นการ์ตูนที่ดูได้เรื่อยๆ มีความแฟนซีในอาณาจักรแมวอยู่ทำให้ไม่น่าเบื่อ เราแอบมีความรู้สึกว่า บารอนกับมุตะ แมวผู้ช่วยนั้นเหมือนยังกับ โฮล์มกับหมอวัตสัน เลยค่ะ  การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับเด็กๆมาก

Grave of the Fireflies (1988) เป็นเรื่องของสองพี่น้อง เด็กชาย เซตะ อายุ 14 ปี กับ เซ็ทซึโกะ เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากเขาต้องสูญเสียพ่อแม่ไประหว่างสงคราม และใช้ชีวิตอยู่กับญาติที่ดูจะไม่สนใจเขาเท่าไหร่ เด็กทั้งสองคนจึงย้ายออกมาหาที่พักอาศัยอยู่กันตามลำพังภายในถ้ำใกล้ๆหมู่บ้าน เขาจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร
เหตุผลที่ชอบ การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนที่เราชอบมาก จริงๆควรจะเอาไว้อันดับ 1 แต่ทว่าเนื้อหามันหดหู่ และชวนอึดอัดใจ เศร้าใจอย่างมาก เราจึงเอามันมาไว้ลำดับสุดท้าย เพราะมันเป็นการ์ตูนอันดับ 1 ที่เนื้อเรื่องอยู่คนละแนวเลย ถือว่าเป็นเรื่องพิเศษที่ไม่อยากนำมาจัดลำดับละกันนะคะ แต่ขอยืนยันว่าเนื้อหาดีมากจริงๆ ด้วยอันที่จริงแล้วไม่ได้นำเสนอความน่าสงสาร หรือต้องการให้คนดูร้องไห้กันแบบเอาเป็นเอาตาย กลับกันเนื้อเรื่องกลับพยายามแทรกความน่ารักของพี่กับน้อง ความรักการเสียสละและดูแลกันของสองพี่น้อง แต่ด้วยความเป็นจริงของชีวิตยามสงครามมันทำให้ไม่ว่ายังไง มันก็น่าเศร้าอยู่ดีค่ะ ขอแนะนำว่าถ้าใครชอบแนวดราม่า ไม่น้ำเน่า ต้องเรื่องนี้เลย เพราะชี้ให้เห็นชัดว่า สงครามไม่มีสิ่งดีมีแต่การสูญเสีย สำหรับเรื่องนี้ไม่แนะนำให้เด็กดูนะคะ มันออกจะเข้าใจยากไปหน่อย และก็หดหู่เกินไปค่ะ (ถ้าใครเคยดูหนัง Nobody Knows มาแล้ว อยากบอกว่าเรื่องนี้ยิ่งกว่า)

อันที่จริงยังมีการ์ตูนของ Studio Ghibli อีกหลายเรื่องค่ะที่เรายังไม่ได้ดู ส่วนเรื่องทั้งหมดที่กล่าวมานี่ดูไปหลายรอบแล้ว โดยเฉพาะ Spirited Away นี่ดูซ้ำมากที่สุด ถ้ามีโอกาสได้ดูเมื่อไหร่ จะนำมาอัพเดทนะคะ ในความรู้สึกเรา แค่ดูภาพ ลายเส้น กับเพลงประกอบ การ์ตูนค่ายนี้ก็คุ้มค่าแล้วล่ะค่ะ :)

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Spirited Away (千と千尋の神隠し)


ที่มาภาพ http://en.wikipedia.org/wiki/Spirited_Away
Spirited Away เรื่องนี้ถ้าแปลตามตัวก็คือเรื่องจิตวิญญาณที่หายไป แต่ว่าชื่อในภาษาญี่ปุ่น 千と千尋の神隠し Sen to Chihiro no kamikasushi แปลว่าการหายไปของเซ็นและจิฮิโระ ซึ่งก็ตรงตามเนื้อเรื่องเลยนะคะ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ เด็กหญิงชื่อ จิฮิโระ ที่พลัดหลงเข้ามาในมิติของโลกวิญญาณ และด้วยความที่เธอต้องการช่วยเหลือพ่อกับแม่ ที่ถูกสาปเป็นหมูเพราะกินอาหารของโลกวิญญาณเข้าไป ด้วยความช่วยเหลือของ ฮากุ ผู้ช่วยของแม่มดที่ปกครองเมืองนั้น เขาแนะนำให้จิฮิโระไปขอทำงานที่นั่น แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำงานกับแม่มด จะถูกลบชื่อเก่าและเปลียนชื่อใหม่ ทำให้จำชื่อเก่าไม่ได้ ซึ่งถ้าต้องการจะเลิกสัญญาทำงาน มีทางเดียวก็คือจะต้องจำชื่อของตนเองให้ได้ ซึ่งจิฮิโระ ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เซ็น ดูตัวอย่างได้จากวีดีโอด้านล่างนะคะ (เราชอบเสียงพากย์ของญี่ปุ่นมากกว่าภาษาอังกฤษนะ)


ที่จริงแล้วเรื่องนี้ได้กวาดรางวัลมามากมายเลยค่ะ ได้รางวัลออสการ์สาขา Animation ด้วย มีคนหลายคนที่ตีความสัญลักษณ์และแนวคิดต่างๆจากการ์ตูนเรื่องนี้ อันที่จริงการ์ตูนของค่าย Studio Ghibli นี้เป็นการ์ตูนประเภทที่ถ้าดูผ่านๆไม่คิดอะไรก็ดูสนุก เหมาะกับเด็กๆ แต่ถ้าผู้ใหญ่ดูและพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่ผู้กำกับต้องการสื่อ ก็จะเห็นว่ามีสิ่งที่แฝงอยู่ในนั้นไม่น้อยเลยค่ะ

สำหรับเราเองที่ชอบก็เพราะว่า จินตนาการค่ะ ความแปลกใหม่ของตัวละคร เนื้อเรื่อง ฉาก และโลกในจินตนาการของการ์ตูนเรื่องนี้ นับได้ว่าแตกต่างจากที่เราเคยพบเห็นกันมาทั้งหมดเลยค่ะ ภูติ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าตาน่ากลัวเสมอไป น่ารักๆ แบบตัวไรฝุ่นก็ได้ (เราชอบตัวนี้มากค่ะ) เป็นการ์ตูนที่ให้จินตนาการในแบบวัฒนธรรมชาวเอเชีย ซึ่งมันสวยงามมากในสายตาของเรา แง่คิดที่แฝงอยู่มากมายในเรื่องก็ใส่มาได้ดี ไม่มากไม่น้อย และไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป เหมาะกับการนำไปสอนเด็กๆจริงๆค่ะ เพลงประกอบก็เพราะมาก แต่งโดย Joe Hisaishi (เป็นเจ้าประจำของเพลงเพราะๆในการ์ตูนหลายๆเรื่องของ Ghibli)

เพลง One Summer's Day เป็น main theme

เนื้อหาต่อจากนี้ มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องนะคะ เราเขียนขึ้นเพื่อแชร์ความรู้สึกกับคนที่ดูมาแล้ว แต่ถ้าใครคิดว่ารู้ก่อนไม่เสียอรรถรสในการชม ก็อ่านต่อได้เลยค่ะ

ความประทับใจกับแง่คิดที่เราได้รับ
บอกก่อนเลยเราเองก็ไม่มีความรู้เรื่องวัฒนธรรมญี่ปุ่น หรือความเชื่อใดๆนะคะ เราเข้าใจในแบบของตัวเอง อย่างมุมมองของคนดูทั่วๆไป
1. เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของ จิฮิโระ เด็กสาวอายุ 10 ขวบ ที่ถ้าดูจากเรื่องแล้วจะพบว่า เธอเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงมาแบบสังคมสมัยใหม่ ค่อนข้างถูกตามใจ และไม่มีความกล้า สังเกตุได้จากตอนต้นเรื่องที่เธอเดินทางผ่านอุโมงค์ และคำพูดของแม่มดยูบาบ้าที่พูดกับเธอ ตอนที่ขอทำงานด้วย
เมื่อจิฮิโระ ต้องเอาตัวรอดในโลกของวิญญาณให้ได้ และหาทางช่วยเหลือ พ่อแม่ และฮากุตอนบาดเจ็บ เธอกลับดึงความกล้าทั้งหมดมาใช้ และพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ จะเห็นว่าเธอกลายเป็นเด็กที่เข้มแข็ง และพึ่งพาได้ในท้ายที่สุดค่ะ (ส่วนหนึ่งเธอเป็นเด็กที่มีจิตใจดีอยู่แล้วด้วย)

2. ความมีน้ำใจของคนในโลกวิญญาณ จะเห็นได้จากตอนแรก คุณลุงฮามาจิ (แมงมุมต้มน้ำ) ปฎิเสธไม่ช่วยเหลือจิฮิโระ แต่สุดท้ายก็ช่วย ทั้ง ริน พี่เลี้ยงที่ดูแล จนกระทั่งสุดท้าย จิฮิโระก็เอาชนะใจคนทั้งโลกวิญญาณในเมืองนั้น ให้มาร่วมลุ้นและเอาใจช่วยเธอได้
ฉากสำคัญคือ ความสามัคคี ตอนที่ทุกคนพยายามช่วยกันดึงเอาหนามออกจากตัวของเทพแห่งสายน้ำ ทั้งๆที่ตอนแรกไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เพราะกลิ่นเหม็นสกปรกมากๆ ถึงกับไล่ให้ จิฮิโระไปทำหน้าที่อาบน้ำอยู่คนเดียว

3. ความแตกต่างของการดำเนินชีวิต ระหว่างแม่มดฝาแฝด ยูบาบ้า ที่โลภมาก หาเงินไม่สนใจอะไรนอกจากธุรกิจ เลี้ยงโบ หลานตัวอ้วนใหญ่แบบทะนุถนอมถึงกับ ไม่ให้ออกไปไหน เพราะกลัวเชื้อโรคจะติดหลาน ยูบาบ้าจะเข้มงวดและงก กับคนอื่นๆ แต่จะยอมให้หลาน คือ โบ คนเดียว
จะเห็นว่าความโลภของเธอเข้าเส้นขนาดที่ โบ หายไปเธอยังไม่รู้ตัว พอ ฮากุ บอกว่าสิ่งสำคัญหายไปยังไม่รู้อีก เธอกลับมองที่ ทองคำ เป็นอันดับแรก แสดงให้เห็นถึงจิตใจของคนที่เห็น เงินทองสำคัญกว่าคนในครอบครัว
ในขณะที่ เซนิบ้า แม่มดฝาแฝด  ที่ดูเหมือนดุ น่ากลัว กลับมีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง ในบ้านหลังเล็กๆ และเป็นคนที่ใจดี เธอยังให้ เจ้าไร้หน้า ทำงานอยู่กับเธอ เพราะว่ามันไม่มีเพื่อน  และตอนแรกที่เราคิดว่าแม่มดเซนิบ้า ทำร้ายฮากุ กลับกลายเป็นแม่มดยูบาบ้าที่ทำร้ายเขาด้วยการใส่ตัวคำสาปไว้ในท้องของฮากุ เพื่อควบคุมเขาด้วยอำนาจ

4. โบ เด็กที่เอาแต่ใจตัวเองในตอนแรก ยืนไม่ได้ เพราะไม่เคยออกไปไหนนอกห้อง เนื่องจากกลัวเชื้อโรค หลังจากถูกแม่มดเซนิบ้าสาปให้เป็นหนู ออกเดินทางไปกับจิฮิโระ เขาก็หันมาชอบในความมีน้ำใจของเธอ ไม่ใจแคบเหมือนป้ายูบาบ้า และหัดยืนได้สำเร็จ

5. เจ้าไร้หน้า เป็นตัวแทนของความเหงา เขารู้สึกชอบจิฮิโระ เพราะเธอทำดีด้วย เขาจึงพยายามเป็นเพื่อนกับเธอ ด้วยการหาสิ่งของที่คิดว่าเธออยากได้เอามาให้ จากที่ตอนแรกเขาเอาป้ายน้ำสมุนไพรให้ ต่อมาก็ให้ทองคำ เพราะเห็นว่าคนอื่นๆอยากได้ มีแต่คนโลภมาก พยายามเอาใจเขา เพื่อขอทองคำ แต่จิฮิโระกลับปฎิเสธ เขาจึงกลืนคนอื่นเข้าไปในท้องด้วยความโกรธ สุดท้ายความมีน้ำใจและความช่วยเหลือของจิฮิโระ ทำให้เขารู้สึกตัว และอยากเป็นเพื่อนกับเธออีก
จะเห็นว่า คนเรามักจะสร้างความสัมพันธ์กัน ด้วยการให้สิ่งที่เราคิดว่าเขาอยากได้ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ทุกอย่าง การที่เราไปยัดเยียดให้เขา และโกรธเมื่อเขาไม่ตอบรับ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เราควรจะต้องฟังความคิดของคนอื่นก่อนหรือเปล่า
อย่างจิฮิโระ ไม่ได้ต้องการทองคำ เพราะเธอไม่โลภ และเธอพูดว่า เจ้าไร้หน้าให้ในสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้หรอก นั่นก็คือ การช่วยเหลือพ่อแม่ของเธอนั่นเอง

6. น้ำใจและความดีของจิฮิโระ จะเห็นชัดมากในหลายตอน แต่ที่สำคัญคือ ขนมดังโงะ ที่เทพเจ้าแห่งสายน้ำให้เธอไว้ มันเป็นเหมือนยารักษา ซึ่งอาจจะรักษาพ่อแม่ของเธอให้หายจากการถูกสาปได้ เธอจึงเก็บไว้ แต่พอฮากุบาดเจ็บเธอก็แบ่งไปรักษาเขาครึ่งนึง พอเจ้าไร้หน้าอาละวาด เธอก็ยกที่เหลือทั้งหมดรักษามัน ซึ่งเธอเองใช้ของสำคัญที่อาจจะช่วยพ่อแม่ตัวเองได้ไปช่วยคนอื่น ถ้าไม่เสียสละจริงๆทำไม่ได้หรอก

7. เรื่องของการไม่ลืมตัวตน ผ่านจากการที่คนที่มาทำงานกับยูบาบ้า จะต้องถูกลบชื่อเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ และ ฮากุ ก็ไปไหนจากยูบาบ้าไม่ได้เพราะเขาจำชื่อตัวเองไม่ได้ แต่เขาสั่งให้จิฮิโระจำชื่อตัวเองไว้  ซึ่งฮากุเอง เดิมทีเป็นเทพแห่งแม่น้ำโคฮากุ แล้วเขาต้องการเรียนเวทมนต์กับ ยูบาบ้า จึงมาขอทำงานกับเธอ พออยู่ๆในโลกนี้ไป เขาก็จำชื่อตัวเองไม่ได้ กลายเป็นเพียงลูกจ้างในกำมือของยูบาบ้า ที่ต้องทำเรื่องไม่ดีให้กับเธอ มันจึงเป็นข้อคิดที่ว่า ถ้าคนเราลืมตัวตนของตัวเองไป ก็จะถูกกลืนไปในสังคมนั้นๆได้โดยง่าย

สรุปสุดท้าย แก่นของเรื่องคือ ความมีน้ำใจและความดี ความกล้าหาญและมุ่งมั่นพยายามที่เอาชนะต่ออุปสรรคของจิฮิโระ ทำให้เธอเอาชนะปัญหาต่างๆได้ ที่สำคัญคือเอาชนะใจคนรอบข้างให้หันมาทำดีกับเธอด้วยค่ะ

หลังจากดูเรื่องนี้จบรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ เราคิดว่า เราหลงรักคาแรคเตอร์ของฮากุนะ เงียบๆ เท่ห์ๆ แต่มีน้ำใจ เสียดายตอนจบ ต้องกลับมางงว่า แล้วฮากุ จะไปเจอกับจิฮิโระ อีกได้อย่างไร ^^

ปล. เราไม่กล้า capture ภาพจากวีดีโอมาใส่ และหาภาพที่ปล่อยจาก Studio เองไม่ได้ เลยไม่ได้แปะภาพประกอบนะคะ ทั้งที่จริงแล้วภาพในเรื่องสวยมาก แต่คิดว่าผู้อ่านคงค้นหาตัวอย่างภาพได้ไม่ยากค่ะ