วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ครูพิเศษจอมป่วน Reborn!

ตั้งแต่เริ่มเรียนแล้วเครียด เราก็จะเริ่มหาทางออก แบบเด็กๆ ด้วยการดูการ์ตูนค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าจะดูคั่นเวลาระหว่างทานข้าวกลางวัน พอเริ่มดูได้ตอนแรก ก็ติด เพิ่มรอบในการฉาย เป็นดูทุกครั้งที่ทานอาหาร ยิ่่งดูก็ยิ่งสนุก ไปๆมาๆ แอบดูเวลาทำงานด้วย (ไม่ควรเลียนแบบนะคะ) ทีนี้เอง อาการ Cartoonism ก็ถามหา

วันนี้เราอยากจะระบายความคิดเห็นที่มีต่อการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ที่ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะสนุก เห็นว่าตัวเอก(รีบอร์น) น่ารักดี ดูไปดูมา ไม่สามารถละทิ้งความรู้สึกอินกับการ์ตูนได้ บางวันถึงกับเก็บเอาไปฝันถึงเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ

ถ้าจะถามว่า ทำไมล่ะ สนุกตรงไหน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า ถ้าใครที่ชอบดูการ์ตูนต่อสู้แบบไม่โหดร้าย มิตรภาพระหว่างเพื่อน และมุขตลกแทรกนิดหน่อย ก็คงจะชอบดูรีบอร์นได้ไม่ยาก

รีบอร์นเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เด็กนักเรียนคนหนึ่งชื่อ ซาวาดะ สึนะโยชิ ซึ่งเป็นเด็กที่ไม่เก่งเลย ไม่ว่าด้านอะไรทั้งสิ้น จู่ๆก็มารับรู้ว่า เขาเป็นทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้ามาเฟีย ของ วองโกเล่แฟมิลี่ (Vongola family) แล้วก็แน่นอนค่ะ คนที่มาบอกข่าว ก็คือ ตัวเอกของเรา Reborn เด็กจิ๋วที่มีฝีมือนักฆ่าอันร้ายกาจ เขาได้รับมอบหมายมาให้เป็นครูฝึกสอนให้กับ สึนะ ในการสืบทอดตำแหน่งในอนาคต
แล้วเรื่องราวก็จะดำเนินไปในรายละเอียด ของการฝึกฝน การต่อสู้ และก็มิตรภาพของผองเพื่อน

สำหรับรายละเอียด เรื่องย่อของการ์ตูนเรื่องนี้ เราคงจะไม่พูดถึงมากนะคะ เพราะว่าแค่เสิร์ชในอินเตอร์เน็ต คลิกเดียว ก็ได้รายละเอียดมากมายเลยล่ะค่ะ

การ์ตูนเรื่องนี้เขียนได้ดี การดำเนินเรื่อง การวางเนื้อเรื่องทำได้ถึงขนาดที่ว่าสนุกจนคนดู ต้องลุ้นและอยากติดตามต่อไปเรื่อยๆ แต่ภาคหลังๆมานี้ ก็มีคนบ่นกันมากมายว่าเนื้อเรื่องเริ่มจะเป็นการเขียนเพื่อขาย ไม่สมจริง ทิ้งความเป็นตัวเอง และไม่โดดเด่นเหมือนเดิม ก็คงเหมือนกับ หนังที่ทำภาคแรกไว้ ไม่ได้วางโครงสำหรับภาคอื่น พอมาทำภาคต่อ ก็ไม่สามารถคงความเป็นตัวเองเอาไว้ได้ ที่เค้าชอบเรียกกันว่าออกทะเลนั่นแหละค่ะ

เราคงจะไม่วิจารณ์มากไปกว่านี้หรอกนะคะ เพราะถึงแม้ว่าหลังๆนี้เนื้อเรื่องจะแผ่วๆ แต่ว่าความประทับใจในตอนแรกๆที่มี เป็นสิ่งที่อยากจะพูดถึงมากกว่าค่ะ

แง่มุมแรกที่เรารู้สึกดีมากที่สุดก็คือ การวางนิสัยของตัวละครชาย ให้นึกถึงจิตใจของตัวละครหญิง รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่นำเสนอถึงความคิดในใจของผู้หญิง

โดยปกติแล้ว การ์ตูนทั่วๆไปมักจะเขียนตัวละครชาย หล่อ เท่ห์ ค่อนข้างขรึม เป็นสุภาพบุรุษในฝันของสาวๆ หรือไม่ก็ต๊อง น่ารักไปเลย แล้วก็นำเสนอคล้ายกับว่า ผู้หญิงชอบผู้ชายแบบนี้
กลับกัน สึนะ ไม่ใช่คนขรึม เป็นเด็กผู้ชายธรรมดาๆ ไม่เท่ห์ (ยกเว้นตอน Hyper mode) เราชอบที่ตัวละคร สึนะ เป็นคนธรรมดาแบบที่เราเห็นกันทั่วๆไป แต่น้ำใจดี ความซื่อ บวกโง่ของเขา กลับเป็นความน่ารัก แต่ว่า จะมีในหลายๆตอน ที่แสดงให้เห็นว่าเขา เข้าใจและมีน้ำใจกับเด็กผู้หญิง รวมถึงเจ้าเด็กวัว อย่างคุณแรมโบ้ด้วย

จะเห็นได้ชัดในเนื้อเรื่องของภาคอนาคต ที่เฉลยว่า สึนะในอนาคต เป็นคนส่ง สึนะ และเพื่อนๆ ในอดีต มาฝึก โดยที่ให้เอา เด็กผู้หญิงและเด็กๆ อย่าง แรมโบ้ อี้ผิง มาด้วย เพราะว่า คนเหล่านี้เป็นคนที่เขาอยากจะปกป้อง เมื่ออยากจะปกป้องใครแล้ว เขาจะได้มีความพยายามที่จะต่อสู้

หรือการที่เขามักจะใจดีกับแรมโบ้ ทั้งๆที่บางที เจ้าเด็กวัวทำตัวน่าหมันไส้ซะจนอยากจะตื้บแท้ๆ
ที่ชอบที่สุดคงจะเป็นตอนที่ พวกเด็กผู้หญิงไม่รู้ว่ากำลังอยู่ในสงครามของอนาคต (เพราะผู้ชายปิดบังไว้ กลัวว่าผู้หญิงจะไม่สบายใจ) แล้ว สึนะ กำลังอยู่ในสภาวะกดดัน ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เผลอดุ คุณแรมโบ้ กับ ฮารุ เสียงดัง จนสองคนนั้นร้องไห้เสียใจ

สิ่งที่น่ารักมากก็คือ สึนะ แก้ปัญหาด้วยการบอกความจริงกับผู้หญิง ซึ่งเป็นจุดที่สื่อได้ดีมากว่า จริงๆแล้วผู้หญิงก็ควรจะได้รับรู้ ไม่ใช่ถูกปิดหูปิดตาเอาไว้ และวิธีการขอโทษของเขาก็น่ารัก และจริงใจที่จะพูดขอโทษตรงๆ ยอมรับผิดโดยไม่มีการฟอร์ม (สำหรับเนื้อหาตอนนี้ ฟังจากการเล่ายังไม่เห็นภาพหรอกค่ะ ต้องไปดูเอง อิๆ)

ตรงนี้ทำให้เรารู้สึกว่า นี่ต่างหาก ภาพพจน์ของผู้ชายที่ดี ไม่จำเป็นต้องเท่ห์ก็ได้ ไม่ต้องเก๊กขรึม ฟอร์มจัด ปากแข็ง แค่เป็นคนธรรมดา ที่มีจิตใจดีงามก็พอแล้วล่ะค่ะ

ไม่รู้ว่า ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะ ผู้แต่งเป็นผู้หญิง ก็เลยทำให้สามารถถ่ายทอดเนื้อเรื่องตอนนี้ได้พอเหมาะพอเจาะ และตรงกับความรู้สึกของเด็กผู้หญิงแบบนี้ ที่จริงแล้วก็มีอีกหลายตอนที่ชอบ แต่ตอนนี้จำไม่ได้แล้วล่ะค่ะ (ความจำสั้นก็งี้แหละ 555)

เอาเป็นว่า ถ้าใครได้ดูแล้วคิดเหมือนกัน หรือคิดว่ายังมีจุดไหนที่เรื่องนี้ให้แง่คิดดีๆ เราลองมาคุยกันนะคะ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม รีบอร์น ก็เข้าไปอยู่ในใจเราเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ ^^

ปล. ว่าจะเขียนเกี่ยวกับรีบอร์น แต่เราก็พาออกทะเล ไปเรื่องผู้ชายเสียได้ ฮ่าๆๆ

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Install JPL on Ubuntu 11.04

เราหาทางแก้ปัญหาเรื่องการติดตั้ง JPL บน Ubuntu เวอร์ชันใหม่นี้มาตั้งหลายวัน ถามอากู๋ จนแกไม่รู้จะตอบว่ายังไง ลงทุนอ่านเวปที่เป็นภาษาอะไรไม่รู้ แล้วก็ไปสุ่มๆ ใช้ google translate ดูมันทุกภาษาเลย

จนสุดท้าย ก็มาจุดใต้ตำตอ และรู้ซึ้งว่า doc ที่มีค่าที่สุด ก็มาจากเวป prolog นั่นเอง ฮ่าๆๆ

Environment: Window Vista, Eclipse Galileo, Java6 ,
swi-prolog source: http://www.swi-prolog.org/download/stable
jpl: http://sourceforge.net/projects/jpl/

เมื่อได้ไฟล์มาก็ทำการ extract ไฟล์แล้วจะพบว่ามีไฟล์ jpl.jar อยู่ในโฟลเดอร์
เพียงแค่ add jpl.jar เข้าไปในโปรเจค ผ่านโปรแกรม eclipse เท่านี้เราก็จะสามารถเขียนโค้ด Java ติดต่อกับ Prolog ได้แล้ว

Environment: Ubuntu 11.04 , Eclipse Galileo, Java6
swi-prolog+jpl source: http://www.swi-prolog.org/download/stable/
วิธีการติดตั้งตามนี้เลย http://code.google.com/p/javanaproche/wiki/HowToJPL/